พลเอก ศิริ  ทิวะพันธุ์ ประธานสถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน (อดีตแม่ทัพภาคที่ ๓ ) เป็นประธานงานวันสถาปนากองทัพภาคที่ ๓ ครบรอบปีที่ ๑๑๘ เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศให้อดีตผู้บังคับบัญชา และกำลังพล ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ ๓ ให้การต้อนรับ ณ สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ เวลา  ๐๘.๐๐ น.กองทัพภาคที่ ๓ ก่อกำเนิด เมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๕ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ สืบเนื่องมาจากเงี้ยวบ้านบ่อแก้ว แขวงเมืองลอง และบ้านป่าผึ้ง แขวงสูงเม่น จังหวัดแพร่ ได้รวมตัวก่อการจลาจล  ใช้อาวุธปืนบุกเข้ายึดเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ข้าหลวงกำกับราชการแพร่ ได้รวบรวมกำลังต่อสู้ ๖ สิงหาคม ๒๔๔๕ พระบาทสมเด็จ-พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ พลโท เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี  เป็นแม่ทัพใหญ่ยกกำลังเข้าปราบปราม ระหว่างทางเมื่อผ่านทางพิษณุโลก พิชัยและอุตรดิตถ์ก็ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยด้วย จนสามารถปราบปรามผู้ก่อจลาจลเงี้ยวได้สำเร็จ เมื่อ ๒๐ สิงหาคม ๒๔๔๕ ในการเดินทางกลับ เมื่อผ่านเมืองพิษณุโลก ได้หยุดตั้งค่ายพักแรม และได้พิจารณาเห็นว่าภาคเหนือควรมีทหารประจำการไว้บ้าง จึงจัดตั้งกองทหารขึ้น ๑ กอง ประจำอยู่ที่พิษณุโลก และเป็นที่มาของกองทัพภาคที่ ๓ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ติดกับแม่น้ำน่าน มาจนถึงปัจจุบัน โดยถือเอา วันที่ ๒๐ สิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ปราบผู้ก่อจลาจลเงี้ยวได้สำเร็จ จึงเป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองทัพภาคที่ ๓ จวบจนถึงปัจจุบันมี พลโท ประพันธ์  กุลพิจิตร เป็น แม่ทัพภาคที่ ๓ คนแรก และ พลโท  ฉลองชัย  ชัยยะคำ เป็น แม่ทัพภาคที่ ๓  คนปัจจุบัน และเป็นแม่ทัพภาคที่ ๓ คนที่ ๓๘ ซึ่งท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีความพร้อมลักษณะของผู้นำ มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้กองทัพภาคที่ ๓ มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น กองทัพภาคที่ ๓ เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกที่รับผิดชอบในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ด้วยเกียรติประวัติที่ยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ครบ ๑๑๘ ปี แห่งการสถาปนาหน่วย กองบัญชาการกองทัพภาคที่ ๓ ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญยิ่ง โดยมีภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบกการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์  การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยภายในกำกับดูแลแนวชายแดนเพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่ง กระทบถึงความสัมพันธ์ที่ดีของมิตรประเทศ พร้อมการสร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับต่างประเทศ การพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่  ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งจะรวมถึงการปฏิบัติภารกิจต่อภัยคุกคามที่มิใช่สงคราม เพื่อความมั่นคงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน  การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีกองกำลังป้องกันตามแนวชายแดน จำนวน ๒ กองกำลัง คือกองกำลังนเรศวรรับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดนจังหวัดตาก จังหวัดแม่ฮ่องสอน และกองกำลังผาเมืองรับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดนจังหวัดเชียงใหม่จนถึงจังหวัดพิษณุโลก การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทุกประการซึ่งในพื้นที่ตอนบนของประเทศจะประสบกับปัญหาหมอกควันเนื่องจากการเผาเพื่อหาของป่าและอากาศที่ร้อนจนทำให้เกิดไฟป่าขึ้น กองทัพภาคที่ ๓ จึงได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ ๓ ขึ้นในหน่วยทหารที่กองทัพภาคที่ ๓ รับผิดชอบทั้ง ๑๗  จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งใน พื้นที่ส่วนใหญ่ของกองทัพภาคที่ ๓ เป็นป่าและภูเขา ซึ่งถือว่าเป็น แหล่งต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ ๓ ถือว่าเป็นภารกิจที่เร่งด่วนและสำคัญ แม้นจะดูแลในพื้นที่ภาคเหนือแต่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำด้วย  และภารกิจที่สำคัญยิ่งของกองทัพภาคที่ ๓ คือตั้งศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค ๓ เพื่อร่วมทำกิจกรรมกับส่วนราชการและประชาชน ในการช่วยเหลือดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข        ให้กับประชาชนในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือต่อไป