เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564 พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับและร่วมปฏิบัติภารกิจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี  ในโอกาสที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางไปที่อำเภอศรีสำโรง จำนวน 2 จุด ได้แก่ บ้านคลองชัด หมู่ ที่ 8 ตำบลวังใหญ่ และวัดดอนจันทร์ หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านไร่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ระหว่างเยี่ยมชมจุดตรวจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวสอบถาม พูดคุย พร้อมให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม ขอให้ทุกคนช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน ในส่วนที่เกิดความเสียหายกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจดูแลเยียวยาความเสียหายที่ประชาชนได้รับ พร้อมกล่าวว่าวันนี้ทุกคนมาในนามรัฐบาล ในนามคณะรัฐมนตรี เพื่อช่วยเหลือดูแลทุกคน ฝากความห่วงใย ขอให้ประชาชนระมัดระวังสัตว์มีพิษที่ตามมาจากสถานการณ์น้ำท่วมด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางต่อไปยังวัดบ้านซ่าน ตำบลบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง เพื่อสักการะหลวงพ่อสามพี่น้อง และหลวงพ่อขาว ก่อนจะรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสุโขทัยจากส่วนราชการ และ ที่ ณ วัดบ้านซ่าน ตำบลบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สักการะหลวงพ่อสามพี่น้อง และหลวงพ่อขาว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า น้ำเยอะได้รับผลกระทบจากพายุทำให้มีน้ำฝนตกลงมาปริมาณมาก ส่งผลให้ท่วมในหลายพื้นที่ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการสำรวจและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวจะต้องวางแผนแก้ไขปัญหาในภาพรวมต่อไป จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจากหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จังหวัดสุโขทัยในช่วงเวลาที่ผ่านมามีฝนตกหนักกระจายทั่วพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ทำให้การระบายน้ำไหลล้นอาคารระบายน้ำล้นในหลายแห่ง เช่น อ่างเก็บน้ำแม่มอก อ่างเก็บน้ำแม่กองค่าย และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กได้ไหลลงมารวมกับปริมาณน้ำท่าในลำคลองธรรมชาติด้านท้ายอ่าง ส่งผลกระทบให้เกิดน้าเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งปริมาณของลำน้ำขนาดหน้าตัดแม่น้ำยมตอนเหนือมีความกว้างจุลำน้ำประมาณ 2,000 ลบ.ม./วินาที และค่อย ๆ มีขนาดแคบลง สภาพหน้าตัดในช่วงที่ผ่านตัวเมืองสุโขทัยรองรับอัตราการไหลได้ไม่เกิน 342 ลบ.ม./วินาที ทำให้บ่อยครั้งเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัย มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 อําเภอ 64 ตําบล 349 หมู่บ้าน มีเกษตรกรที่ประสบภัย 14,464 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรประสบภัย 213,661 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 169,297 ไร่ แยกตามชนิดพืช ดังนี้ (1) ข้าว ประสบภัย 186,968 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 150,774 ไร่ (2) พืชไร่ พืชผัก ประสบภัย 23,992 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 16,761 ไร่  (3) ไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่น ๆ ประสบภัย 2,701 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 1,762 ไร่ ด้านประมงมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้านประมง 8 อําเภอ 47 ตําบล 213 หมู่บ้าน เกษตรกร 2,504 ราย พื้นที่ 3,087.25 ไร่ จํานวนบ่อเลี้ยง 2,745 บ่อ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า ลงพื้นที่วันนี้นำพาหัวใจคนกรุงเทพมหานคร หัวใจคนต่างจังหวัดมามอบให้กับคนสุโขทัย จากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายรู้สึกเห็นใจ เข้าใจความรู้สึกผู้ประสบภัย ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านอุทกภัยครั้งนี้ไปให้ได้ ในส่วนรัฐบาลได้สั่งการให้ส่วนราชการสำรวจความเสียหายเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนอย่างครบถ้วน ยืนยันรัฐบาลจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ในส่วนของน้ำท่วมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ 100% เพราะศักยภาพของพื้นที่ แต่จะต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนยังคงเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมืองสุโขทัย เป็นพื้นที่ประสบภัยในระดับวิกฤติ ระดับน้ำบางจุดลึกกว่า 2 เมตร มีผู้ได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าเสียชีวิตแล้ว 1 ราย บางบ้านไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและไหลแรง ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเทศบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำอาหารและน้ำดื่มเข้าไปแจกจ่ายให้ โดยโครงการชลประทานสุโขทัยคาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่และไม่มีน้ำไหลเพิ่มเติมเข้ามา อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน ในการระบายน้ำที่ท่วมขังออกไปได้ทั้งหมด ส่วนเส้นทางที่มีน้ำท่วมผิวจราจรกว่า 90 แห่ง บางจุดไม่สามารถผ่านได้ ทางจังหวัดได้ติดตั้งป้ายเตือนและป้ายแนะนำเส้นทางเพื่อความปลอดภัย และขอให้ผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ระมัดระวังอันตรายจากการขับรถตกขอบทาง และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่ศูนย์บัญชาเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดสุโขทัย หมายเลข 0 5561 6237 หรือแจ้งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง